วันพฤหัสบดีที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2554

วันวาเลนไทน์


กุมภาพันธ์เป็นเดือนที่อบอวลไปด้วยความสุขการแสดงถึงความรัก ความห่วงใยถึงคนที่ เราปรารถนาดีและ
อยากให้เขามีความสุข และเป็นที่รับรู้กันทั่วโลกว่าวันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันแห่งความรักหรือ Valentine’s Day และวันนี้ยังมีคิวปิด หรือกามเทพ ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของ วันวาเลนไทน์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุด คิวปิดเป็นบุตรของวีนัสและมาร์ส แต่ ชาวกรีกเรียกคิวปิดว่า อีรอส ภาพของ คิวปิดที่มนุษย์โลกปัจจุบันได้รู้จัก
ก็คือภาพเด็กน้อยที่ถือคันธนูและลูกศร มีหน้าที่ยิงศรรักให้ปักใจคน ปัจจุบัน คิวปิดและธนูของเขากลายมาเป็น เครื่องหมายแห่งความรักที่เป็นที่รู้จัก มากที่สุด และความรักของเขามีกล่าวถึงบ่อยในภาพของ การยิงศรรัก ระหว่าง หัวใจสองดวงให้รักกัน เรียกกันว่า ศรรักคิวปิด เราจึงมาเล่าสู่กันฟังเกี่ยว กับประวัติความเป็นมาและความสำคัญ ของวันนี้กันค่ะ

เทศกาลวาเลนไทน์ เริ่มมีขึ้น ตั้งแต่ยุคที่จักรวรรดิโรมันเรืองอำนาจ ในยุคนั้น วันที่ 14 กุมภาพันธ์ของทุกปี ถูกจัดให้เป็นวันหยุดเพื่อเป็นเกียรติแต่เทพเจ้าจูโนผู้เป็น จักรพรรดินีแห่งเทพเจ้าโรมัน นอกจาก นี้แล้วพระองค์ยังทรงเป็นเทพเจ้าแห่ง อิสตรีเพศและการแต่งงานและในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ เป็นวันเริ่มต้นเทศกาล เฉลิมฉลองแห่งลูเพอร์คาร์เลีย การ ดำเนินชีวิตของหนุ่มสาวจะ ถูกตัดขาดออกจากกันอย่างสิ้นเชิง ในรัชสมัยของ จักรพรรดิคลอดิอัส ที่ 2 (Emperor Claudius II) แห่ง กรุงโรม พระองค์ ทรงเป็นกษัตริย์ที่มี ใจคอดุร้ายและทรงนิยม การ ทำสงครามนองเลือด ได้ทรงตระหนักว่าเหตุที่ ชายหนุ่มส่วนมากไม่ประสงค์จะเข้าร่วม ในกองทัพเนื่องจากไม่อยากจากคู่รัก และครอบครัวไป จึงทรงมีพระราชโอง การสั่งห้ามมิให้มีการจัดพิธีหมั้นและ แต่งงานกันในโรมโดยเด็ดขาด ทำให้ ประชาชนทุกข์ใจเป็นอย่างยิ่ง และขณะนั้น มีนักบุญรูปหนึ่งนามว่า เซนต์วาเลนไทน์ หรือวาเลนตินัส ซึ่งอาศัยอยู่ในโรมได้ ร่วมมือกับเซนต์มาริอัสจัดพิธีแต่งงานให้กับ ชาวคริสต์หลายคู่ และด้วยความปรารถนา ดีนี้เองจึงทำให้วาเลนไทน์ถูกจับและระ หว่างนี้ก็ยังคงส่งคำอวยพรวาเลนไทน์ ของเขาเองขณะที่เขาเป็นนักโทษ เป็น ความเชื่อว่าวาเลนไทน์ได้ตกหลุมรักหญิง สาวที่เป็นลูกสาวของผู้คุมที่ชื่อจูเลีย ซึ่งได้มาเยี่ยมเขาระหว่างที่ถูกคุมขัง ในคืนก่อนที่วาเลนไทน์จะสิ้นชีวิตโดยการถูกตัดศีรษะ เขาได้ส่งจดหมายฉบับ สุดท้ายถึงจูเลีย โดยลงท้ายว่า “From Your Valentine” 
 วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 270 หลังจากนั้นศพของเขาได้ถูก เก็บไว้ที่โบสถ์ พราซีเดส (Praxedes) ณ กรุงโรม จูเลียได้ปลูกต้นอามันต์ หรืออัลมอลต์สีชมพู ไว้ใกล้หลุม ศพของวาเลนตินัส แด่ผู้เป็น ที่รักของเธอ โดยในทุกวันนี้ ต้นอามันต์สีชมพูได้เป็นตัวแทน แห่งรักนิรันดรและมิตรภาพ อันสวยงาม และคำนี้ก็เป็นคำที่ใช้มา จนถึงปัจจุบัน ถึงแม้ว่าเบื้อง หลังความเป็นจริงของวาเลนไทน์จะ เป็นตำนานที่มืดมัว แต่เรื่องราวยังคง แสดงให้เห็นถึงความรู้สึกสงสาร ความ กล้าหาญและที่สำคัญที่สุดเป็นเครื่องหมาย ของความโรแมนติค จึงไม่น่าประหลาดใจ เลยว่าในช่วงยุคกลางวาเลนไทน์เป็นนักบุญ ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในอังกฤษและฝรั่งเศส ต่อมาพระในนิกายโรมันคาทอลิกจึงเลือกให้ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันเฉลิมฉลอง เทศกาลแห่งความรักและดูเหมือนว่ายัง คงเป็นธรรมเนียมที่ชายหนุ่มจะเลือก หญิงสาวที่ตนเองพึงใจในวันวาเลนไทน์ สืบต่อกันมาจนถึงทุกวันนี้
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 270 หลังจากนั้นศพของเขาได้ถูก เก็บไว้ที่โบสถ์ พราซีเดส (Praxedes) ณ กรุงโรม จูเลียได้ปลูกต้นอามันต์ หรืออัลมอลต์สีชมพู ไว้ใกล้หลุม ศพของวาเลนตินัส แด่ผู้เป็น ที่รักของเธอ โดยในทุกวันนี้ ต้นอามันต์สีชมพูได้เป็นตัวแทน แห่งรักนิรันดรและมิตรภาพ อันสวยงาม และคำนี้ก็เป็นคำที่ใช้มา จนถึงปัจจุบัน ถึงแม้ว่าเบื้อง หลังความเป็นจริงของวาเลนไทน์จะ เป็นตำนานที่มืดมัว แต่เรื่องราวยังคง แสดงให้เห็นถึงความรู้สึกสงสาร ความ กล้าหาญและที่สำคัญที่สุดเป็นเครื่องหมาย ของความโรแมนติค จึงไม่น่าประหลาดใจ เลยว่าในช่วงยุคกลางวาเลนไทน์เป็นนักบุญ ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในอังกฤษและฝรั่งเศส ต่อมาพระในนิกายโรมันคาทอลิกจึงเลือกให้ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันเฉลิมฉลอง เทศกาลแห่งความรักและดูเหมือนว่ายัง คงเป็นธรรมเนียมที่ชายหนุ่มจะเลือก หญิงสาวที่ตนเองพึงใจในวันวาเลนไทน์ สืบต่อกันมาจนถึงทุกวันนี้

คติประจำใจ

คติประจำใจ

คำว่ารักคำเดียวกัน… อาจมีความหมายต่างกัน
หากความรู้สึกของคนที่พูดมานั้นต่างกัน
เมื่อใครสักคนพูดคำว่ารัก…
ด้วยตวามรู้สึกที่แท้จริงของตัวเอง
คำๆนี้ก็จะกลายเป็นคำที่มีพลังที่ยิ่งใหญ่
แปลเปลี่ยนคืนวันที่หัวใจเศร้าหมองให้เป็นวันที่สดใส
คำว่ารักคำเดียวกัน…
เพียงแค่ไม่ได้ถูกเปล่งออกมาจากที่เดียวกัน…
ก็มีความหมายต่างกันมากมายเหลือเกิน
เมื่อเราจำเป็นต้องพูด…เราต้องคิดเสมอว่า
คำๆนี้มีอิทธิพลต่อคนฟังมากมายเสมอ
จงใช้เวลาเพื่อคิดให้ดี ให้มั่นคงก่อนที่จะพูด
เมื่อต้องบอกรักใครสักคน
อย่าพูดออกจากปาก….. ให้พูดออกจากหัวใจ

วันพฤหัสบดีที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2553

บาสเกตบอล NBA

ลอสแอนเจลิส เลเกอรส์(LA lakers)

ลอสแอนเจลิส เลเกอรส์ เป็นทีมบาสเกตบอลในลีกเอ็นบีเอ ในเมืองลอสแอนเจลิส มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ตามสถิติเมื่อสิ้นสุดฤดูกาล 2004-05 เป็นทีมที่ชนะมากที่สุด (คือ 2,621 เกม) มีเปอร์เซนต์ชนะสูงสุด (61.9%) เล่นในรอบชิงชนะเลิศมากที่สุด (28 ครั้ง) และชนะเลิศในลึกมากเป็นอันดับสอง คือ 14 ครั้ง เป็นรองเพียงทีมบอสตัน เซลติกส์ ซึ่งชนะ 16 ครั้ง นอกจากนี้ยังมีสถิติชนะติดต่อกันมากที่สุดในฤดูกาลคือ 33 เกม
ประวัติ
ประวัติของเลเกอร์สเริ่มจากทีมดีทรอยต์ เจ็มส์ (Detroit Gems) ซึ่งเริ่มเล่นในปี ค.ศ. 1946 ในลีกเอ็นบีแอล (National Basketball League, NBL) เมื่อเล่นได้ปีเดียวและมีผลงานชนะเพียง 4 เกมแต่แพ้ 40 เกม เจ้าของเดิม ซี. คิง บอริง (C. King Boring) ได้ขายทีมให้กับ เบน เบอร์เกอร์ (Ben Berger) และ มอร์ริส ชาลเฟน (Morris Chalfen) ทั้งคู่ได้ย้ายทีมจากเมืองดีทรอยต์ไปอยู่ที่เมืองมินนิแอโปลิส มลรัฐมินนิโซตา และเนื่องจากที่มลรัฐนี้มีทะเลสาบอยู่มากจึงใช้ชื่อใหม่ว่าเลเกอร์ (มาจากคำว่า lake ซึ่งแปลว่าทะเลสาบ) และยังคงใช้ชื่อนึ้หลังจากที่ทีมย้ายมาเล่นที่เมืองลอสแอนเจลิสก่อนเริ่มฤดูกาลปี ค.ศ. 1960

ก่อนที่จะมีลีกเอ็นบีเอ เลเกอร์สเล่นในลีกเอ็นบีแอล ในปี ค.ศ. 1947 และลีกบีเอเอ (Basketball Association of America, BAA) ในปี ค.ศ. 1948 ซึ่งก็ได้แชมป์ของลีกทั้งสองปี เมื่อปี ค.ศ. 1949 ลีก เอ็นบีแอล และ บีเอเอ ก็รวมกันตั้งเป็นเอ็นบีเอซึ่งเลเกอร์ก็เข้าร่วมเป็นสมาชิก และสามารถคว้าตำแหน่งชนะเลิศได้ในหลายปีแรก ภายใต้การนำของ จอร์จ มิคาน (George Mikan) ผู้เล่นตำแหน่งเซ็นเตอร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคนั้นซึ่งเลเกอร์ได้มาเสริมทีมจากสิทธิ์การดราฟอันดับแรก หลังจากที่ทีม ดีทรอยต์เจมส์ เดิมได้อันดับรั้งท้ายในเอ็นบีแอล

ทีมเลเกอร์ตกต่ำลงหลังจาก จอร์จ มิคาน เลิกเล่น มีผู้เข้าชมการแข่งขันน้อย ถึงแม้ว่ามีผู้เล่นเก่งอย่าง เอลกิน เบเลอร์ (Elgin Baylor) ก็ตาม ทำให้ทีมตัดสินใจย้ายเมืองเมื่อปี ค.ศ. 1960 ตามรอยทีมเบสบอลที่ชื่อ ดอจเจอร์ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงหลังจากย้ายไปที่ลอสแอนเจลิส หลังจากย้ายทีมก็ได้ผู้เล่นที่เก่ง เช่น เจอร์รี เวสต์ (Jerry West) จากการดราฟ และซื้อตัว วิลท์ แชมเบอร์เลน (Wilt Chamberlain) มาจากทีมฟิลลาเดลเฟีย เซเว่นตี้ซิกเซอรส์ ก็ยังไม่สามารถเอาชนะทีมบอสตัน เซลติกส์ซึ่งเป็นแชมป์หลายสมัยในขณะนั้นได้จนกระทั่งปี ค.ศ. 1972

ถึงแม้ว่ามี คารีม อับดุล-จับบาร์ (Kareem Abdul-Jabbar) เลเกอร์ไม่สามารถได้แชมป์อีกจนกระทั่งได้เออร์วิน จอห์นสัน (Earvin "Magic" Johnson หรือที่นิยมเรียกว่า แมจิก จอห์นสัน) มาเล่นในปี ค.ศ. 1979 ในปีต่อ ๆ มาได้ เจมส์ เวอร์ที (James Worthy) และ ไบรอน สก็อต (Byron Scott) เลเกอร์ในยุคนี้มีฉายาว่า โชว์ไทม์ (Showtime) และมีชื่อเสียงในเรื่องการบุกทำคะแนน ในยุคนี้เลเกอร์สามารถชนะเลิศได้หลายสมัย ก่อนที่จะค่อย ๆ เสื่อมลง ก่อนที่แมจิกจะประกาศว่าตนเองติดเชื้อเอดส์และเลิกเล่นในปี ค.ศ. 1991 (แมจิกกลับมาเล่นให้ทีมอีกครั้งเมื่อต้นปี ค.ศ. 1996 และเลิกเล่นถาวรหลังหมดฤดูกาลนั้น)


แชค กำลังจับมือกับ จอร์จ ดับเบิลยู. บุชในโอกาลที่เลเกอรส์ได้แชมป์เอ็นบีเอปี 2001ก่อนฤดูกาล 1996-97 เลเกอร์เซ็นสัญญาเซนเตอร์ร่างยักษ์ แชคิล โอนีล (Shaquille O'Neal ชื่อเล่นว่า แชค) ด้วยค่าตัวที่สูงถึง 120 ล้านดอลลาร์สหรัฐในเวลา 7 ปี และเทรดเอาโคบี ไบรอันต์ (Kobe Bryant) จากทีมชาล็อต ฮอร์เนตส์ นักกีฬาที่เพิ่งดราฟมาจากระดับมัธยมปลาย ในช่วงนี้เลเกอร์ยังไม่สามารถพาทีมไปคว้าตำแหน่งชนะเลิศได้ โดยตกรอบเพลย์ออฟรอบหลัง ๆ ติดต่อกันทุกปี เมื่อ ค.ศ. 1999 เลเกอร์ได้ย้ายสนามใหม่จากเกรทเวสเทอร์นฟอรัม (Great Western Forum) ไปที่ สเตเพิลส์เซนเตอร์ (Staples Center) ได้หัวหน้าโค้ชใหม่คือฟิล แจ็คสัน (Phil Jackson) และเปลี่ยนระบบการเล่นใหม่เป็นแบบ ไทรแองเกิลออฟเฟนส์ (triangle offense) เลเกอร์ได้คว้าแชมป์ติดต่อกันสามสมัย ทำให้หัวหน้าโค้ช ฟิล แจ็คสัน มีสถิติชนะเลิศ 9 ครั้ง เป็นอันดับหนึ่งเท่ากับโค้ช เรด เออบาค (Red Auerbach) ของทีมบอสตันเซลติกส์ แต่สองปีต่อมามีปัญหาแพ้รอบเพลย์ออฟโดยเฉพาะในฤดูกาล 2003-04 ซึ่งเซ็นสัญญาเอา คาร์ล มาโลน (Karl Malone) และแกรี เพย์ตัน (Gary Payton) นักกีฬาที่อนาคตจะติดหอเกียรติยศแต่ยังไม่เคยได้แชมป์สักครั้งหนึ่ง ประกอบกับความขัดแย้งระหว่าง แชค กับ โคบี ทำให้ต้องเปลี่ยนหัวหน้าโค้ชและเทรดแชคไปทีมไมอามี ฮีท แกรี เพย์ตัน ถูกเทรดไปทีมบอสตัน เซลติกส์ ส่วน คาร์ล มาโลน ประกาศเลิกเล่น

ฤดูกาล 2004-05 เป็นปีที่ตกต่ำของเลเกอร์ มีผู้เล่นระดับซุปเปอร์สตาร์เพียง โคบี ไบรอัน โดยลำพังไม่สามารถพาทีมได้ อีกทั้งมีปัญหาคดีความทางศาลของ โคบี และปัญหาสุขภาพของหัวหน้าโค้ชใหม่ รูดี ทอมยาโนวิช (Rudy Tomjanovich) ทำให้ต้องออกจากการเป็นหัวหน้าโค้ชกลางคัน ส่วนปัจจุบัน ฟิล แจ็คสัน กลับมาเป็นหัวหน้าโค้ชอีกครั้ง แต่จากผลงานปีที่ผ่านมา แค่ได้เข้ารอบเพลย์ออฟก็ถือเป็นความสำเร็จแล้ว